Tense
Tense คือรูปแบบ(หรือโครงสร้าง)ของกริยา ที่แสดงให้เราทราบว่า การกระทำหรือเหตุการ นั้นๆเกิดขึ้นเมื่อใด ซึ่งเรื่อง
tense นี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราใช้
tense ไม่ถูก เราก็จะสื่อภาษากับเขา ไม่ได้
เพราะในประโยคภาษาอังกฤษนั้นจะอยู่ในรูปของ tense
เสมอ
ซึ่งต่างกับภาษาไทยที่เราจะมีข้อความบอกว่าาเกิดขึ้นเมื่อใดมาช่วยเสมอ แต่ภาษาอังกฤษจะใช้รูป tense
นี้มาเป็นตัวบอก
ดังนี้การศึกษาเรื่อง tense จึงเป็นเรื่องจำ เป็น.
Tense ในภาษาอังกฤษนี้จะแบ่ง
ออกเป็น 3 tense ใหญ่ๆคือ
1. Present tense
ปัจจุบัน
2. Past tense อดีตกาล
3. Future tense อนาคตกาล
ในแต่ละ tense ยังแยกย่อยได้ tense ละ 4 คือ
1 . Simple tense
ธรรมดา(ง่ายๆตรงๆไม่ซับซ้อน).
2. Continuous tense
กำลังกระทำอยู่(กำลังเกิดอยู่)
3. Perfect tense
สมบูรณ์(ทำเรียบร้อยแล้ว).
4. Perfect continuous
tense สมบูรณ์กำลังกระทำ (ทำเรียบร้อยแล้วและกำลัง ดำเนินอยู่ด้วย).
โครงสร้างของ Tense ทั้ง 12
มีดังนี้
Present Tense
[1.1] S +
Verb 1 + ……(บอกความจริงที่เกิดขึ้นง่ายๆ ตรงๆไม่ซับซ้อน).
[Present] [1.2] S
+ is, am, are +
Verb 1 ing
+ …(บอกว่าเดี๋ยวนี้กำลังเกิดอะไร
อยู่).
[1.3] S + has,
have +
Verb 3 + ….(บอกว่าได้ทำมาแล้วจนถึง
ปัจจุบัน).
[1.4] S + has,
have +
been + Verb 1 ing + …(บอกว่าได้ทำมาแล้วและกำลังทำ
ต่อไปอีก).
Past Tense
[2.1] S + Verb
2 + …..(บอกเรื่องที่เคยเกิดมาแล้วใน
อดีต).
[Past] [2.2] S
+ was, were + Verb
1 +…(บอกเรื่องที่กำลังทำอยู่ในอดีต).
[2.3]
S + had
+ verb 3 + …(บอกเรื่อที่ทำมาแล้วในอดีตใน ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง).
[2.4] S +
had + been
+ verb 1
ing + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วอย่างต่อ
เนื่องไม่หยุด).
Future Tense
[3.1] S + will,
shall +
verb 1 +….(บอก เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต).
[Feature] [3.2] S
+ will, shall +
be + Verb 1 ing + ….(บอกว่าอนาคตนั้นๆกำลังทำอะไร
อยู่).
[3.3] S +
will,s hall + have
+ Verb 3 +…(บอกเรื่องที่จะเกิดหรือสำเร็จ
ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง).
[3.4] S +
will,shall + have
+ been + verb 1 ing +.. ..(บอกเรื่องที่จะทำอย่างต่อเนื่องในเวลาใด
- เวลาหนึ่งในอนาคตและ
จะทำต่อไปเรื่อยข้างหน้า).
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น